สาหร่ายเกลียวทอง กับอาการไข้หวัด
|
|||||||||
มร.ไลนัส พอลลิง นักวิทยาศาสตร์ที่เคยได้รับรางวัลโนเบลมาแล้ว เคยเสนอแนะให้กินวิตามินซีเป็นประจำวันละ | |||||||||
1 – 3 กรัม เพื่อป้องกันไข้หวัด และให้เพิ่มปริมาณทันทีเมื่อรู้สึกตัวว่าเริ่มจะติดเชื้อหวัด แต่ต้องเป็นวิตามินซีบริสุทธิ์ | |||||||||
ไม่เจือปนน้ำตาลหรือสารปรุงแต่งกลิ่น สีและรส ขณะเดียวกันเคยมีรายงานบางชิ้นเสนอให้กินวิตามินซีถึง 10 – 15 กรัม | |||||||||
/ วันโดยเฉลี่ย จะช่วยให้โรคหวัดมีระยะเวลาติดเชื้อสั้นลงได้ อย่างไรก็ตามรายงานข้างต้นยังไม่เป็นที่ยืนยัน แต่เป็น | |||||||||
ที่ยอมรับโดยทั่วกันว่า วิตามินซีช่วยป้องกันโรค หวัดได้เป็นอย่างดี | |||||||||
พืชธรรมชาติอย่างสาหร่ายเกลียวทอง นอกจากมีวิตามินซีแล้ว ยังมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยส่งเสริมการทำงาน | |||||||||
ของวิตามินซี เพื่อช่วยสร้างภูมิต้านทานของร่างกายด้วย วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ก็จัดว่าเป็นสารอาหารที่ช่วย | |||||||||
สร้างภูมิต้านทานแก่ร่างกายซึ่ง สารอาหารทั้งสองชนิดก็มีอยู่มากในสาหร่ายเกลียวทองเช่นกัน | |||||||||
นอกจากสาหร่ายเกลียวทองแล้ว กระเทียมก็มีสรรพคุณในการแก้เจ็บคอ หรือใช้น้ำผึ้งผสมมะนาวเติมเกลือเล็ก | |||||||||
น้อยก็ช่วยให้ชุ่มคอ ลดการระคายเคืองได้ดี เนื้อว่านหางจระเข้ก็มีสรรพคุณช่วยป้องกันการติดเชื้อหวัดได้ และมีผลลด | |||||||||
อาการไข้และอักเสบได้ด้วย | |||||||||
สำคัญที่สุดคือ เมื่อเป็นไข้หวัด ร่างกายต้องการพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารและน้ำให้เพียงพอเพื่อจะได้ฟูมฟัก | |||||||||
ภูมิต้านทานมาต่อสู้กับเชื้อหวัดได้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น การอาบน้ำเย็น และตัวให้อบอุ่นตลอดเวลา | |||||||||
ข้อมูลโดย ภญ.จีรายุ วีรเดช หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ www.siamturakij.com |
|||||||||
|
|||||||||