สาหร่ายเกลียวทอง แฮปปี้ไลฟ์

home02.jpgaboutUS01.jpgspirulina1.jpgsent_product1.jpgPurcess1.jpgRegisMember1.jpgstep1.jpgcontac01.jpg



สาหร่ายเกลียวทองกับโรคเบาหวาน

         โรคเบาหวาน เป็นโรคที่รักษาให้หายยากบางครั้งดูผิวเผินคล้ายกับผู้ป่วยได้หายจากโรคเบาหวานแล้ว แต่เมื่อใด
ที่ผู้ป่วยไม่ระวังใส่ใจในการดูแลอาหารและปฏิบัติตัว โรคก็จะกำเริบขึ้นมาอีก


         โรคเบาหวานก็เหมือนโรคอื่น ๆ คือถ้าตรวจพบอาการเสียแต่เนิ่น ๆ และรับการรักษาในขณะที่อาการยังไม่หนัก
โรคก็จะหายได้เร็ว แต่โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังซึ่งต้องมีความอดทนพอสมควรจึงจะรักษาให้หายได้


       อาการที่สังเกตได้ง่ายที่สุดเมื่อป่วยเป็นโรคเบาหวาน
            1. ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง
            2. มีน้ำตาลในปัสสาวะ


      ตามความเชื่อเดิมที่ว่า โรคเบาหวานเกิดขึ้นจากการที่ปริมาณน้ำตาล
ในร่างกายมีมากเพราะร่างกายมีสารอินซูลินน้อยเกินไป แต่ความจริง
โรคเบาหวาน มิใช่จะเกิดขึ้นเพราะการขาดสมดุลระหว่างน้ำตาลและ
อินซูลินเท่านั้น อาหารทุกประเภทที่เรารับประทาน เข้าไปนั้นมีผล
ต่อน้ำตาลในเลือดได้ทั้งสิ้น เพราะแม้แต่ไขมันและโปรตีน
ก็สามารถ แปรสภาพเป็นกลูโคสได้


         จุดประสงค์หลักในการรักษาโรคเบาหวานก็คือ
การทำให้น้ำตาลในปัสสาวะหมดไปและค่าน้ำตาลในเลือดปกติ
โภชนาบำบัดและการออกกำลังกาย คือหัวข้อสำคัญในการรักษา
หากใช้สองวิธีนี้แล้วไม่ได้ผลเนื่องจากโรคมีอาการทรุดหนักก็ให้ใช้วิธีฉีด

  อินซูลินและรับประทานยาควบคู่ไปด้วย
   
            จุดประสงค์อีกประการหนึ่งในการรักษาโรคเบาหวานคือ ให้ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรม ในชีวิตประจำวัน
  ได้เหมือนเช่นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงทั่วไป
   
            การดูแลสุขภาพโดยทั่วไปทั้งหมด เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการรักษาโรคเบาหวาน การพึ่งพา อินซูลินแต่ี
  เพียงอย่างเดียวมอันตรายในแง่ที่ว่า หากอินซูลินมีปริมาณมากเกินไป ปริมาณน้ำตาลในเลือดจะลดน้อยลง
  และเมื่อปริมาณน้ำตาลในเลือดลดลงแม้แต่เพียงเล็กน้อยร่างกายจะปรากฏอาการต่าง ๆ เช่น หายใจติดขัด
  เหงื่อออกเต็มตัว เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือหมดสติไป
            หลายคนที่เกรงว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดจะลดลงมากเกินไป มักพกพากลูโคส ชนิดเม็ดติดตัวไว้เสมอ
  ในความเป็นจริงอาหารธรรมชาติสามารถให้ผลที่ดีกว่ากลูโคสชนิดเม็ดมาก คือนอกจากจะช่วยควบคุมปริมาณ
  น้ำตาลในเลือดแล้วยังสามารถช่วยเสริมสุขภาพ โดยทั่วไปได้ด้วยการรักษาโรคเบาหวานขั้นเริ่มต้นคือ  การลด
  น้ำหนักให้อยู่ในระดับปกติ  นอกจากนี้คนที่เป็นโรคเบาหวานจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  ในอนาคตอย่างไรก็ดีไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นโรคเบาหวานจะไม่ต้องการไขมันเลย
   
                                                                 อาหารที่คนเป็นโรคเบาหวานควรบริโภคเป็นประจำคือธัญญาหาร ที่ไม่ผ่านการ
                                                                    ปรุงแต่ง เช่น ขนมปังโฮลวีท ข้าวซ้อมมือ ลูกเดือย เป็นต้น อาหารที่ปราศจาก
                                                                       สารเคมีผักผลไม้ปลอดสารพิษ อาหารสำเร็จรูปที่ไม่ใส่สารกันบูด อาหารที่มี
                                                                        กากอาหารอยู่มากหากผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหาร เช่นที่ว่านี้ได้สม่ำเสมอ
                                                                          ก็จะ สามารถควบคุมน้ำตาลได้โดยที่น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งสุขภาพ
                                                                          โดยทั่วไป จะดีขึ้นระบบการทำงานของร่างกาย ในการรักษาสมดุลภายใน
                                                                         จะมีประสิทธิภาพ ดีขึ้น
                                                                         ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจต้องการสารอาหารบางอย่างมากกว่าที่คนทั่วไป
                                                                        ต้องการ ร่างกายคนเรานั้นเหมือนกันในหลักใหญ่แต่ในรายละเอียดมีความ
                                                                     แตกต่างกันเป็นอย่างมากในวงการแพทย์มีการกำหนดมาตรฐานในเรื่องต่างๆ
                                                                  เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ โรคและการเยียวยารักษามาตรฐานทางการแพทย์

  นั้น จะมีแต่เรื่องของน้ำหนัก ส่วนสูง ความดันโลหิต ฯลฯ มาตรฐานที่กำหนดขึ้นมานั้นอาจไม่ครอบคลุม“ภาวะปกติ” ของ
  ทุกคนเนื่องจากภาวะปกติของบุคคลใดบุคคลหนึ่งอาจต่ำหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยก็ได้ ตัวอย่างเช่น มีการกำหนดมาตรฐานว่าคน
  โดยทั่วไปต้องการวิตามินซี 30 มก. ต่อวัน แต่สำหรับคนที่สุขภาพไม่ดีหรือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกรรมพันธุ์ อาจต้องการ
  วิตามินซีมากถึง 2,000 มก.ต่อวันก็ได้ ดังนั้นสำหรับบุคคลเหล่านี้การกินวิตามินซีวันละ 50 มก.ต่อวัน อาจทำให้เขาเป็น
  คนขาดวิตามินซีทันทีทั้งที่ร่างกายรับวิตามินซี มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปแล้วก็ตามการที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือนว่ามีการขาด
  สารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นเป็นเพราะระบบเคมีชีวภาพของร่างกาย ต้องการสารอาหารเหล่านั้น และการรักษาที่ดีที่สุด
  คือการตอบสนองความต้องการของร่างกายไม่ว่าสิ่งนั้นจะเกิน “ค่าเฉลี่ย” หรือมาตรฐานที่กำหนดอย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าเมื่อ
  ต้องการคำแนะนำในเรื่องของโรคเบาหวานขอให้สอบถามจากนายแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น อย่ายึดหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง
  เป็นคู่มือเพียงประการเดียว
 
  อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ดีจะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
   
     1. ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดได้
     2. ช่วยในการคุมน้ำหนัก
     3. ต้องเป็นอาหารซึ่งเสริมสุขภาพ
     4. เป็นอาหารที่เสริมความต้องการเฉพาะอย่างได้
     5. เป็นอาหารที่สามารถลดความซับซ้อนของระบบการทำงานของร่างกายได้
   
  สารอาหารที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องการมากเป็นพิเศษได้แก่
  เบต้าแคโรทีน, วิตามินเอ, บี1, บี2, บี3, บี5, บี6, บี12, วิตามินซี, คลอไรด์, อินโนซิทอล, โครเมี่ยม,
  แมงกานีส, โปตัสเซียม, และสังกะสี
   
           ในญี่ปุ่น นายแพทย์ได้สั่งสาหร่ายเกลียวทองให้คนไข้โรคเบาหวานที่อาการค่อนข้างหนัก รับประทานควบคู่
  ไปกับการควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด โดยจ่ายสาหร่ายเกลียวทองให้กินวันละ 9 เม็ด (มื้อละ 3 เม็ดหลังอาหาร)
  หลังจาก 30 วัน และ 60 วันผ่านไป ปริมาณน้ำตาลเกือบจะหายไปจากปัสสาวะและปริมาณน้ำตาลในเลือดก็กลับสู่
  ภาวะปกติ
 

บริษัท แฮปปี้ไลฟ์ ไบโอเทรด จำกัด จัดจำหน่าย สาหร่ายเกลียวทอง H-Life สไปรูลิน่า spirulina
11/34 โครงการใจแก้วเอราวัณ ถ.เชียงใหม่ - ลำพูน ม.3 ต.หนองหอย อ.เมือง จ. เชียงใหม่ 50000
สำนักงานใหญ่ โทร.053-111684
ฝ่ายขาย 086-431-9489,081-603-4412,086-429-8016
Search powered by Google™